ทำอย่างไรให้ฝ้าหายเร็วที่สุด? | กิน ยา คุม แล้ว เป็น ฝ้า

You are viewing this post: ทำอย่างไรให้ฝ้าหายเร็วที่สุด? | กิน ยา คุม แล้ว เป็น ฝ้า

ทำอย่างไรให้ฝ้าหายเร็วที่สุด?


นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

ทำอย่างไรให้ฝ้าหายเร็วที่สุด?
คลิกเลย คืนความมั่นใจให้กับผิวคุณ ฝ้าจางลงผิวกระจ่างใสขึ้น https://goo.gl/cagL4J
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของบีเอสแอล ได้ที่
Line ID : @bslclinic มี @ ข้างหน้าด้วยนะคะ
https://line.me/ti/p/@bslclinic
m.me/bslclinic
.
BSL Admin 0982897805
สีลม 0969142082
สุขุมวิท 0639236862
ปัญหาฝ้า ผิวหน้าดำหมองคล้ำ ใครไม่เป็นคงไม่เข้าใจ…เพราะฝ้าร้ายกาจถึงขนาด…ทำให้ขาดความมั่นใจ หลายๆ คนไม่กล้าออกจากบ้านด้วยผิวหน้าที่ไร้เครื่องสำอางปกปิด บางคนกลัวแดดไม่กล้าออกจากบ้าน หรือผ่านการรักษามานับครั้งไม่ถ้วน ผิดบ้างถูกบ้าง แต่ฝ้า…ก็ไม่หายสักที ยิ่งทำให้ท้อกับการรักษาฝ้าไปอีก
ครั้งนี้คุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านเลเซอร์และผิวหนัง BSL Clinic จะมาเฉลยความถามจากคนเป็นฝ้าที่ว่า \”ทำอย่างไรให้ฝ้าหายเร็วที่สุด?\” มาฝากกันค่ะ
รักษาฝ้า BSLclinic ฝ้าขึ้นที่หน้า รักษาฝ้าที่ไหนดี รีวิวการรักษาฝ้า เลเซอร์ฝ้า คลินิกรักษาฝ้า รักษาฝ้าอย่างถูกวิธี

ทำอย่างไรให้ฝ้าหายเร็วที่สุด?

เริ่มกินยาคุม กินยังไง ไม่ให้ท้องNurse Kids


เริ่มกินยาคุมกำเนิด กินยังไง ไม่ให้ท้อง
รู้ไว้ไม่ท้อง

แต่ถ้ายาคุมสำหรับหญิงให้นมบุตร ต้องดูvdoนี้นะคะ เพราะต้องกินยาคุมเฉพาะคะ ถึงจะไม่ลดนมแม่คะ
https://youtu.be/RIjIZiO3Lmo
ยาคุมแบบกิน ใช้ในการคุมกำเนิด แต่ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ยาคุมกำเนิดนี้ใช้ในกรณีที่ยังไม่พร้อมที่จะมีบุตร ถ้าใช้ถูกต้อง กินสม่ำเสมอ ตรงเวลา ไม่ลืมกินยาสามารถคุมกำเนิดได้ถึง 99.7 เปอร์เซ็นต์
ยาคุมกำเนิดแบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ
1 ฮอร์โมนเดี่ยว ใช้ในหญิงที่ให้นมบุตร ข้อดีคือไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน ไม่ปวดหัว แต่พบภาวะไม่มีประจำเดือนได้ทั้งๆที่ไม่ได้ท้อง ตัวอย่างยาเช่น Exluton Dailyton แล้วก็ Cerazette
2 ฮอร์โมนรวม ตัวอย่างยาเช่น Yasmin Justima Diane35 Yaz Minidoz Lola เป็นต้น
ยาคุมกำเนิดจะมีชนิดแผงละ21 เม็ด และแผงละ28เม็ด
ยาคุมชนิด21เม็ด
ยาทุกเม็ดมีตัวยาฮอร์โมนเท่ากัน
กินยาให้หมด 21 เม็ดแล้วหยุดยา 7 วัน ค่อยขึ้นแผงใหม่
เมื่อหยุดยา 1 ถึง 3 วัน จะมีประจำเดือน
ยาคุม28เม็ด
มีตัวยาฮอร์โมน 21 เม็ด อีก 7 เม็ดจะเป็นวิตามินบำรุง จะมีสีและขนาดแตกต่างกัน
กินยาจนหมดแผงแล้วขึ้นแผงใหม่ต่อได้เลย
เมื่อกินยาเม็ดแป้ง13วัน จะมีประจำเดือน
เริ่มกินยาคุมเมื่อไหร่
เริ่มกินยาคุมวันที่ 15 ของรอบเดือน

เริ่มกินยาคุม กินยังไง ไม่ให้ท้องNurse Kids

ยาคุมกำเนิด ไม่ทำให้อ้วน ไม่เกิดฝ้า หน้าใส ป้องกันช้อตโกแลตชีส


ช็อกโกแลตซีสต์ (Chocolate Cyst) คือ ถุงน้ำในรังไข่ประเภทหนึ่งที่เกิดจากเซลล์เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ เมื่อถึงเวลาเป็นประจำเดือนจะทำให้มีเลือดสะสมและตกค้างก่อตัวเป็นซีสต์ โดยมีของเหลวลักษณะเหนียวข้นคล้ายช็อคโกแลตอยู่ภายใน ทางการแพทย์จึงเรียกอีกชื่อว่า ถุงน้ำช็อกโกแลต และยังจัดเป็นโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตผิดที่ (Endometriosis) เช่นกัน
อาการของช็อกโกแลตซีสต์
ปวดบริเวณอุ้งเชิงกรานเรื้อรัง โดยจะรุนแรงมากขึ้นในช่วงมีรอบเดือน
ปวดประจำเดือนมาก ซึ่งมักจะเริ่มปวดก่อนประจำเดือนมา 23 วันไปจนหมดรอบเดือน ซึ่งจะต่างกับการปวดประจำเดือนปกติที่มักปวดในช่วงวันแรก ๆ และไม่รุนแรง
มีเลือดออกกะปริบกะปรอยทางช่องคลอด หรืออาการอื่น ๆ คล้ายกับช่วงมีประจำเดือน
รู้สึกเจ็บและปวดบริเวณช่องคลอดขณะมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งอาการอาจคงอยู่หลังมีเพศสัมพันธ์ไปอีกประมาณ 12 ชั่วโมง
มีบุตรยาก
บางรายอาจมีอาการปวดขณะถ่ายอุจจาระหรือปวดบริเวณอุ้งเชิงกรานมากขณะปัสสาวะ
สาเหตุของช็อกโกแลตซีสต์
ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุการเกิดที่แน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจาก ประจำเดือนไหลย้อนกลับไปในรังไข่ (Retrograde Menstruation) เพราะในสภาวะปกติของแต่ละเดือนจะมีการสร้างเยื่อบุขึ้นในมดลูก เพื่อรองรับไข่ที่จะมาฝังตัว แต่เมื่อไม่มีการฝังตัวก็จะทำให้เยื่อบุที่ถูกสร้างขึ้นหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือนทางช่องคลอด แต่ในกรณีของการเกิดช็อกโกแลตซีสต์ การบีบตัวของมดลูกบางจังหวะทำให้ประจำเดือนไหลย้อนไปทางปลายท่อนำไข่แทนที่จะไหลลงข้างล่างทางช่องคลอดเพียงทางเดียว จึงทำให้เซลล์เยื่อบุมดลูกไปฝังตัวและเจริญเติบโตในรังไข่จนเกิดเป็นถุงน้ำขึ้น เมื่อเป็นประจำเดือน ถุงน้ำดังกล่าวก็จะมีเลือดออกในถุงเหมือนเยื่อบุโพรงมดลูกลอกตัว ถุงน้ำจะมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และมีลักษณะเป็นเลือดเก่า ๆ อยู่ภายใน

ทั้งนี้ ยังพบว่ามีปัจจัยเสี่ยงที่พัฒนาให้เกิดช็อกโกแลตซีสต์ขึ้นในบุคคลบางกลุ่มได้ง่าย โดยเฉพาะผู้หญิงที่อยู่ในช่วงอายุ 2540 ปี มีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็นโรคนี้ ไม่เคยมีบุตรมาก่อน หรือมีรอบเดือนผิดปกติ เช่น ประจำเดือนมามากและมีระยะเวลานานกว่าปกติ รอบเดือนสั้น เริ่มมีประจำเดือนครั้งแรกตั้งแต่อายุยังน้อย
การรักษาโดยการใช้ยา จะแบ่งตัวยาออกเป็น 2 กลุ่มได้แก่
ยาแก้ปวดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (Non Steroidal AntiInflammatory Drugs) หรือเรียกแบบย่อว่า ยาเอ็นเสด (NSAIDs) เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดท้องน้อยหรือปวดระหว่างมีรอบเดือนที่ไม่รุนแรง ตัวอย่างยาที่นิยมใช้ เช่น ยาไอบรูโปรเฟน (Ibuprofen) ยานาพรอกเซน (Naproxen)
ยาฮอร์โมนเพศหญิง (Hormone Therapy) ใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการปวดมากและไม่ได้วางแผนตั้งครรภ์ในระยะอันใกล้ แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาฮอร์โมนเพศหญิง เพราะการเพิ่มหรือลดของฮอร์โมนในช่วงรอบเดือนอาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเยื่อบุมดลูก โดยตัวยาจะช่วยชะลอการเจริญเติบโตของเซลล์ให้ช้าลงและป้องกันการฝังตัวใหม่ของเซลล์เยื่อบุมดลูก ผู้ป่วยอาจต้องใช้ยาเป็นระยะเวลาประมาณ 36 เดือนตามแต่ละบุคคล แต่ในบางรายอาจพบอาการได้ใหม่หลังหยุดใช้ยา ตัวอย่างยาที่ใช้บ่อย เช่น ยาคุมกำเนิดรูปแบบต่าง ๆ ยากลุ่มฮอร์โมนโกนาโดโทรปิน รีลิสซิ่ง (Gonadotropin Releasing Hormone: GnRH) ยาฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progestin Therapy) ยาดานาซอล (Danazol)
การผ่าตัด เมื่อการรักษาด้วยยาไม่ช่วยให้อาการดีขึ้น ผู้ป่วยยังคงมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง เนื่องจากถุงน้ำมีขนาดใหญ่จนอาจกระทบกับอวัยวะอื่น แพทย์มักจะแนะนำให้ผู้ป่วยผ่าตัด เพื่อนำเซลล์เยื่อบุออกจากรังไข่ โดยส่วนใหญ่จะเป็นการผ่าตัดผ่านกล้องมากกว่าการผ่าตัดทางหน้าท้อง เนื่องจากรอยแผลมีขนาดเล็ก ใช้ระยะเวลาพักฟื้นน้อย และยังสามารถมีบุตรได้ในอนาคต ในกรณีที่อาการรุนแรงมาก แพทย์อาจพิจารณาให้ผ่าตัดมดลูกหรือรังไข่ออกทั้งหมด ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยเข้าสู่ภาวะหมดระดูหรือหมดประจำเดือนเร็วกว่าปกติ และต้องมีการใช้ฮอร์โมนทดแทน (Hormone Replacement Therapy) เข้ามาช่วยเสริม
ภาวะแทรกซ้อนของช็อกโกแลตซีสต์
ผู้ป่วยมักมีอาการปวดท้องเรื้อรัง บางรายอาจเกิดถุงน้ำแตกหรือฉีกขาด จึงต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน รวมไปถึงมีบุตรยาก เนื่องจากถุงน้ำอาจไปขวางไข่ไม่ให้ไปฝังตัวที่โพรงมดลูกได้อย่างสมบูรณ์
การป้องกันช็อกโกแลตซีสต์
ช็อกโกแลตซีสต์ไม่สามารป้องกันได้ เนื่องจากยังไม่ทราบสาเหตุการเกิดที่แน่ชัด แต่เชื่อว่าการใช้ยาคุมกำเนิดเป็นระยะเวลานาน เช่น ห่วงคุมกำเนิด ยาเม็ดหรือแผ่นแปะคุมกำเนิด อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดช็อกโกแลตซีสต์ให้น้อยลง อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และเมื่อพบความผิดปกติใด ๆ ควรไปพบแพทย์

ยาคุมกำเนิด ไม่ทำให้อ้วน ไม่เกิดฝ้า หน้าใส ป้องกันช้อตโกแลตชีส

ยาคุมลดสิว ลดหน้ามัน ลดขนดก ไม่อ้วน|Nurse Kids


ทำความเข้าใจเรื่องของฮอร์โมน ซึ่งจะแบ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิงและเพศชาย
เพศหญิง จะมีฮอร์โมน 2 ตัว คือ Estrogen กับ Progesterone
เพศชาย คือ Androgen เช่น Testosterone ซึ่งในผู้หญิงก็มีฮอร์โมนนี้ แต่มีในปริมาณน้อยๆ แต่ถ้าผู้หญิงคนไหนมีมาก ก็จะทำให้มีสิว ผิวมัน ขนดก ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้หญิงเราไม่ชอบ เพราะจะทำให้เราไม่สวย
ต่อมาเราก็จะมาเข้าเรื่อง ยาคุม ซึ่งยาคุม มี 2 แบบ คือ
1.ยาคุมฮอร์โมนรวม ซึ่งจะมีทั้ง Estrogen และ Progestin
2.ยาคุมฮอร์โมนเดี่ยว จะมีเฉพาะ Progestin ซึ่งเหมาะกับคุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ไม่ลดคุณภาพนมแม่ และไม่กดการสร้างนมแม่
ยาคุมยุคเก่าๆ เน้นคุมกำเนิดอย่างเดียว โดยในเม็ดยาจะมีฮอร์โมน Estrogen สูงมาก และมักจะมีอาการข้างเคียงหลังกินยาคุมคือ คลื่นไส้/อาเจียน เป็นฝ้า
ยาคุมมีการพัฒนาสูตรมาเรื่อยๆ เพื่อลดอาการข้างเคียง ลด Estrogenให้มากที่สุด หรือบางตัวไม่มี Estrogenเลย และเพิ่ม Progestin เข้ามา และถ้าหากใครอยากทานเพื่อรักษาสิวก็ควรทานยาคุมที่มี Progestin ด้วย ยาคุมปัจจุบัน นอกจากจะคุมกำเนิดได้ ยังช่วยลดสิว ลดผิวมัน ลดขนดก ซึ่งสิ่งนี้แหละคะ ที่ผู้หญิงเราต้องการ
ยาคุมจะประกอบด้วยฮอร์โมน 2 ชนิดคือ
1.กลุ่ม Estrogen หรือ เรียก Ethinyl estradiol (ย่อสั้นๆ EE)
ฮอร์โมนตัวนี้จะทำให้คลื่นใส้อาเจียนได้ ยิ่ง EE สูง ยิ่งคลื่นใส้อาเจียนได้มาก ขนาดที่เจอในท้องตลาด ก็จะมีตั้งแต่ 1535 ไมโครกรัม หรือ ไม่มี EE เลยก็มี
และ EE ก็จะมีผลต่อเยื่อบุโพรงมดลูก ยิ่ง EE สูงโพรงมดลูกยิ่งหนา แต่ถ้า EE ต่ำ ยิ่งต่ำก็จะทำให้เลือดออกกะปริบกะปรอยได้
2.กลุ่ม Progestin เขามีการปรับพัฒนาสูตรมาเรื่อยๆ แบ่งย่อยเป็น 4 กลุ่ม คือ
1. ethisterone กลุ่มนี้ ยังมีผลให้มีสิว ผิวมัน เพราะยังมีฮอร์โมนเพศชายอยู่
2. levonorgestrel กลุ่มนี้ ประสิทธิภาพการคุมดีขึ้นมา แต่ยังพบสิว ผิวมัน เพราะยังมีฮอร์โมนเพศชายอยู่
3. desogestrel กลุ่มนี้น่าสนใจมาก เพราะ ลดสิว ลดผิวมัน ลดขนดก กดการตกไข่ได้ดี ประสิทธิภาพการคุมดี เพราะยาคุมตัวนี้ไม่จับกับฮอร์โมนเพศชาย
4. Drosperinone พัฒนาขึ้นมาเพื่อต้านฮอร์โมนเพศชาย
สรุปแล้วที่พูดมาทั้งหมด ยาคุม มี 2 แบบ แบบฮอร์โมนเดี่ยวที่แม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่กินได้ไม่ลดนมแม่ไม่ลดคุณภาพน้ำนม กับ แบบฮอร์โมนรวมที่มีฮอร์โมน 2 ตัว ฮอร์โมน Estrogenกับ Progestin
Estrogen มีหลายขนาดให้เลือกทาน กรณีที่ไม่เคยกินยาคุมมาก่อน แนะนำให้เริ่มต้นที่ 20 ไมโครกรัม เพราะผลข้างเคียงน้อย
และ Progestinก็มีให้เลือกหลายกลุ่ม กลุ่ม12 ยังมีฮอร์โมนเพศชาย อาจทำให้ยังมีสิว ผิวมัน ขนดก ถ้าอยากลดสิว ผิวมัน ลดขนดก ต้องเป็นกลุ่ม3คือ desogestrel หรือ กลุ่ม4 คือ Drosperinone คะ
ดังนั้น ก่อนใช้ยาคุมปรึกษาแพทย์เภสัชก่อนเลือกทานจะดีที่สุดคะ

ยาคุมลดสิว ลดหน้ามัน ลดขนดก ไม่อ้วน|Nurse Kids

เลือกยาคุมกำเนิดสำหรับคนเป็นฝ้า กังวลเรื่องฝ้า | หมอยาพาคุย


ฝ้า เป็นปัญหาผิวที่พบมาก และส่งผลต่ออารมณ์ ภาพลักษณ์ ซึ่งอาจมีหลายปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้นให้มีการเกิดฝ้า
โดยแสงแดดเป็นปัจจัยกระตุ้นการเกิดฝ้าที่สำคัญที่สุด ฉะนั้น เราจึงควรหลีกเลี่ยงแสงแดด และทาครีมกันแดดเสมอ
ฮอร์โมนก็เป็นอีกปัจจัยซึ่งกระตุ้นการเกิดฝ้าได้เช่นกัน การใช้ยาคุมกำเนิด จะส่งผลให้เกิดฝ้ามากน้อยแค่ไหน
มาติดตามกันเลยค่ะ^^
ฝ้า
ยาคุมกำเนิด
หมอยาพาคุย

เลือกยาคุมกำเนิดสำหรับคนเป็นฝ้า กังวลเรื่องฝ้า | หมอยาพาคุย

นอกจากการดูหัวข้อนี้แล้ว คุณยังสามารถเข้าถึงบทวิจารณ์ดีๆ อื่นๆ อีกมากมายได้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆBUSINESS

Articles compiled by CASTU. See more articles in category: BUSINESS

Leave a Comment