เที่ยวนอร์เวย์ กรุง Oslo (ออสโล) เมืองหลวงนอร์เวย์ เดินเล่นชมเมืองชิวๆ l ทัวร์ถึกกับปึกทัวร์ | ประเทศ นอร์เวย์ เมืองหลวง

You are viewing this post: เที่ยวนอร์เวย์ กรุง Oslo (ออสโล) เมืองหลวงนอร์เวย์ เดินเล่นชมเมืองชิวๆ l ทัวร์ถึกกับปึกทัวร์ | ประเทศ นอร์เวย์ เมืองหลวง

เที่ยวนอร์เวย์ กรุง Oslo (ออสโล) เมืองหลวงนอร์เวย์ เดินเล่นชมเมืองชิวๆ l ทัวร์ถึกกับปึกทัวร์


นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

มีเวลาตอนเย็นนิดเดียว ไปเดินเล่นชิวๆในกรุงออสโล (Oslo) ของนอร์เวย์กันครับ
❥ ทัวร์ถึกกับปึกทัวร์ https://www.facebook.com/tourtukpuktour

เที่ยวนอร์เวย์ กรุง Oslo (ออสโล) เมืองหลวงนอร์เวย์ เดินเล่นชมเมืองชิวๆ l ทัวร์ถึกกับปึกทัวร์

ค่าครองชีพในนอร์เวย์ (Norway) แพงมั้ย? | GoNoGuide


ค่าครองชีพในนอร์เวย์ ถือว่าแพงกว่าประเทศอื่นๆในยุโรป โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ หรือที่พักอาศัย อาหารที่นั่งทานในร้าน ซื้อรถขับเอง จ่ายภาษีสูง แต่ก็ได้รับสวัสดิการดี
แต่ถ้าใช้ชีวิตอย่างประหยัด เช่น ทำอาหารทานเอง แพคอาหารไปทานเอง ขึ้นรถสาธารณะ เมื่อเทียบกับรายได้ที่ก็มากกว่ายุโรปประเทศอื่น ก็ถือว่ายังพอมีเงินเก็บได้
ลิงค์บทความ
https://www.lifeinnorway.net/costofliving

สนับสนุน GoNoGuide http://www.gonoguide.com/support/

ติดตาม GoNoGuide
Facebook : https://www.facebook.com/gonoguide/
Website : http://www.gonoguide.com/
IG : https://www.instagram.com/gonoguide/
Youtube 1 : GoNoGuide http://bit.ly/subsyt
Youtube 2 : GoNoGuide Trips http://bit.ly/2N9xWJZ
ถามได้ทุกเรื่องที่ GoNoGuide Group http://bit.ly/gnggroup

GoNoGuide

ค่าครองชีพในนอร์เวย์ (Norway) แพงมั้ย?  | GoNoGuide

Norway – Land of the Fjords 1


Bus tour Lillehammer, Trolls’ Path, strawberry valley, Eagle Road, a cruise on Geirangerfjord, Jostedalsbreen National Park with the largest glacier in Europe (enable subtitles)
Need a visa or travel documents?
Save your time, please use my link:
https://www.ivisa.com/?utm_source=marekpodlejski

Norway - Land of the Fjords 1

Day Break – เปิดวาร์ปสเปเชียล เที่ยวนอร์เวย์


Day Break พาไปล่องเรือชมธรรมชาติอันสวยงาม มหัศจรรย์ เหมือนสวรรค์บนดิน พักผ่อนชาร์จแบตฯ ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ที่เมืองมรดกโลกเบอร์เก้น จุดหมายปลายทางในฝันที่ต้องไปเยือนสักครั้งในชีวิตที่ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ หรือ ราชอาณาจักรนอร์เวย์ ตั้งอยู่ทางยุโรปเหนือ เป็นประเทศกลุ่มสแกนดิเนเวีย และเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของใครหลายคน ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนพระอาทิตย์กลางคืน มหัศจรรย์แสงเหนือ รวมไปถึงสถาปัตยกรรมและวิถีชีวิตแบบชาวไวกิ้ง ภูมิประเทศยังสวยงามจนใครเห็นเป็นต้องหลงรัก ทั้งธารน้ำตก สลับทิวเขา ผืนป่าและต้นไม้เขียวขจี และที่พลาดไม่ได้คือการล่องเรือชมฟยอร์ดที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เสน่ห์ที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้ต้องมาเยือนสักครั้งในชีวิต
ตั้งต้นกันที่เมืองกุดวานเกน เพื่อลงเรือชม \”ซองฟยอร์ด\” ที่ได้ชื่อว่าเป็น \”คิง ออฟ ฟยอร์ด\” ซึ่งสวยงามที่สุดและใหญ่ที่สุดในนอร์เวย์ ยาวเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจาก สกอร์เรสบี้ ซุนด์ (Scoresby Sund) ของกรีนแลนด์ ล่องเรือลัดเลาะไปตามช่องเขา ชมภูมิประเทศอันงดงามที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยธรรมชาติ จากการกัดเซาะแผ่นดินของธารน้ำแข็งที่ทับถมมานับล้านๆ ปี ก่อนจะเกิดเป็นลำน้ำคดเคี้ยว ซึ่งมีความยาวถึง 204 กิโลเมตรจากทะเลเข้ามายังแผ่นดิน ธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ รายล้อมไปด้วยวิวทิวทัศน์ชวนประทับใจ ทั้งภูเขาสูง น้ำตก และบ้านเรือนริมชายฝั่ง ที่สะท้อนแผ่นน้ำราวกับกระจก สวยสะกดสายตา มาสัมผัสเองก็จะได้ซึมซับบรรยากาศของสวรรค์บนดิน มีจริงๆ ที่นี่
หลังใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ก็เข้าเทียบท่าที่เมือง Flam หรือ ฟลัมส์บานา เมืองเล็กๆ ท่ามกลางหุบเขา ซึ่งตั้งที่อยู่ปลายสุดของฟยอร์ด ปากแม่น้ำฟลัม ด้วยธรรมชาติอันสวยงามบวกกับอาคารบ้านเรือนสีสันสดใส จึงทำให้ที่นี่ดูมีชีวิตชีวา เมืองเล็ก ๆ อันอบอุ่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้จำนวนมาก เพราะนอกจากการล่องเรือชมฟยอร์ดแล้ว กิจกรรมสุดฮอตของที่นี่ คือการขึ้นรถไฟสายฟลัมส์บานา รถไฟสายโรแมนติกที่ได้ชื่อว่าเป็นเส้นทางที่สวยที่สุดในโลก
มุ่งหน้าต่อสู่ เบอร์เก้น อีก 1 จุดหมายปลายทางในฝันของนักท่องเที่ยวที่มานอร์เวย์ ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของประเทศ เมืองที่ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาถึง 7 ลูก และใหญ่อันดับสองรองจากเมืองหลวงออสโล แต่กลับเงียบสงบท่ามกลางธรรมชาติ ถือเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยว เพราะมีกิจกรรมต่างๆ ให้เลือกมากมาย ทั้งเดินป่า ปิกนิก ล่องเรือ พายเรือ ตกปลา หรือจะเล่นสกีในฤดูหนาว หรือจะแค่มาชมความสวยงามของเมืองก็ถือว่าคุ้มแล้ว และด้วยที่ตั้งที่ติดกับมหาสมุทร อากาศที่นี่จึงเย็นสบาย สดชื่น แม้ตอนนี้จะอยู่ในหน้าร้อนก็ตาม
ท่าเรือของที่นี่ถือว่าใหญ่ที่สุดในนอร์เวย์และเป็นหนึ่งในท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ด้วยความยาวถึง 10 กิโลเมตร ด้วยความที่เป็นเมืองเก่าที่ก่อตั้งมากว่า 900 ปีแล้ว ทำให้เบอร์เกนเป็นเมืองท่าที่แสนคลาสสิกงดงามที่สุดเมืองหนึ่ง โดยยังเป็นศูนย์กลางการค้าขาย และจุดนัดพบของชาวประมง เพราะที่นี่ได้รวบรวมปลาสดๆ จากทะเลเหนือไว้ที่ตลาดปลาซึ่งอยู่ติดกับท่าเรือ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้อ เลือกชิมอาหารทะเลสดๆ กันได้อย่างเต็มที่ หรือจะซื้อกลับไปที่บ้านก็ได้
เบอร์เกนได้รับยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกจากยูเนสโก เนื่องจากอาคาร ตึกรามบ้านช่อง ยังคงรูปแบบสถาปัตยกรรมโบราณเอาไว้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอาคารไม้ 3 ชั้น หลังคาจั่วแบบโบราณหลากสีสัน อายุกว่า 300 ปี บริเวณริมอ่าว ที่ในอดีตเป็นคลังสินค้า และถูกบูรณะมาเรื่อยๆ เนื่องจากเกิดเหตุไฟไหม้หลายครั้ง จนปัจจุบันถูกปรับเป็นร้านขายของที่ระลึก บาร์ ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็ก ถือเป็นจุดไฮไลต์เลยก็ว่าได้ ขาเซลฟี่ห้ามพลาด
มาทั้งที ชวนขึ้นไปสัมผัสอากาศบนภูเขา 1 ใน 7 ที่โอบล้อมเมืองนี้กันหน่อย นั่นคือ Mt.Floyen (เฟลยอน) ไม่ต้องกังวลว่าต้องเดินขึ้นเขานะคะ เพราะมีกระเช้าไฟฟ้าให้นั่งสบาย ๆ ขึ้นไปยังจุดสูงสุดของเมืองเบอร์เกนกัน ที่สูงกว่า 320 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มาเบอร์เกนแล้วไม่มาที่นี่ ถือว่าพลาดหนักมาก เพราะนอกจากวิวสวย ๆ ของทั้งยอดเขา ท้องฟ้า ทะเล และภาพเมืองแบบพาโนรามาแล้ว อากาศที่นี่ยังดีมาก ไกด์แอบกระซิบด้วยว่าถ้าอยากได้บรรยากาศโรแมนติก ก็ต้องมาตอนพระอาทิตย์ขึ้น หรือชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ ใครมากับคู่รักรับรองว่าฟินสุด ๆ ไปเลย
ไม่ได้ถูกใจเฉพาะคู่รัก แต่ยังเหมาะกับคนที่ชื่นชอบเทรคกิ้ง เพราะที่นี่มีทางเดินสำรวจไปตามแนวป่าสน สูดออกซิเจนให้เต็มปอด แถมยังมีกิจกรรมกลางแจ้ง อย่างซิปไลน์ และบริการเช่าจักรยานเสือภูเขา ส่วนร้านอาหาร ของที่ระลึก หรือแม้แต่สนามสำหรับเด็กก็มี
นอร์เวย์เป็นประเทศที่สามารถท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาล โดยเฉพาะในหน้าร้อน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน จนถึงเดือนกันยายน จะมีอากาศเย็นสบาย ไม่หนาวเกินไป เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนไทย และยังเป็นช่วงที่มีแสงยาวนาน เพราะพระอาทิตย์ขึ้นประมาณตี 4 ตี 5 ส่วนเวลาค่ำช่วง 1 ทุ่ม 4 ทุ่ม ฟ้ายังสว่างอยู่เลยค่ะ และกว่าพระอาทิตย์จะค่อย ๆ ลับฟ้าไปก็ประมาณ 4 5 ทุ่มเลย เรียกว่าออกเที่ยว เดินชมเมืองชิล ๆ ได้เต็มอิ่มเลย เพราะสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งก็ยังคงเปิดให้เข้าชม เป็นอีกจุดหมายที่เหมาะหยุดพักชาร์จแบตฯ ให้ร่างกาย ออกมาเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้รางวัลตัวเองในบรรยากาศแสนสโลว์ไฟล์ของเมืองวัฒนธรรมแห่งนี้
ติดตาม VoiceTV21
YouTube : https://www.youtube.com/channel/UCpHTAE2EOwWkWGnW2HY8gRw
Facebook : https://www.facebook.com/VoiceTVonline/
Instagram : https://www.instagram.com/voicetv/
Twitter : https://twitter.com/Voice_TV
Website : https://www.voicetv.co.th/

Day Break - เปิดวาร์ปสเปเชียล เที่ยวนอร์เวย์

เที่ยวสวิส คนเดียวแบบง่ายๆ 6 วัน 5 คืน ( Switzerland )


เที่ยวสวิส สวิตเซอร์แลนด์ switzerland พาเที่ยว เที่ยวด้วยตัวเอง
คลิปนี้จะเป็นคลิปรวมการเดินทางท่องเที่ยวในสวิสทั้งหมด 6 วัน 5 คืน ในช่วงเดือนพฤษภาคม โดยเราจะเริ่มกันตั้งแต่บรรยากาศการเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิด้วยสายการบินเอมิเรตส์ และไปเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบก่อนที่เดินทางต่อไปยังซูริคกันครับ
สำหรับการเดินทางมาเที่ยวสวิสในช่วงเดือนพฤษภาคม อากาศช่วงนี้จะค่อนข้างแปรปรวนหน่อยครับ ในบางวันอาจเจอครบทุกฤดูเลยล่ะ ยกตัวอย่างเช่น ช่วงเช้าหนาวมีหิมะตก พอช่วงเที่ยงกลับมีแดดจัด สักพักฝนก็ตกหนักเลย ทำให้บางสถานที่ท่องเที่ยว โดยเฉพาะสถานที่เที่ยวหลักๆในประเทศนี้ที่มักเป็นสถานที่เที่ยวแบบกลางแจ้ง ต้องปิดชั่วคราว การเดินทางในช่วงเดือนนี้เลยอาจต้องมีการปรับแพลนให้เข้ากับสถานการณ์กันบ่อยหน่อยนะครับ การเช็คพยากรณ์อากาศก็ช่วยได้ในระดับหนึ่ง ดังนั้นการแพลนไว้แบบยืดหยุ่นๆ น่าจะดีกว่าครับ และอย่าลืมเลือกที่พักที่สามารถเดินทางไปเที่ยวได้หลายๆที่ ถ้าถามผมนอกจาก Interlaken ก็มี Spiez อีกที่ครับที่เดินทางสะดวก หรือไม่ก็ Bern เพราะเป็นเมืองหลวง รถแทบทุกสายต้องมาผ่านที่นี่ครับ
เอาล่ะครับ สำหรับรายละเอียดที่เหลือ เรามาติดตามรับชมไปพร้อมๆกันต่อด้วยกันในคลิปกันได้เลยนะคร้าบบบ^^
กลุ่มสำหรับพูดคุยร่วมกันผม และสมาชิกท่านอื่นได้ที่ https://www.facebook.com/groups/2329657950485588
สถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดในคลิปนี้
Schaffhausen
Rhine Falls
Zurich
Lindenhof
Old Town
Zermatt
Interlaken
Harder Kulm
Spiez
Lauterbrunnen
Grindelwald
Brienz
Titlis
Luzern
Matterhorn
รายละเอียดค่าใช้จ่ายทั้งหมดในทริปนี้ประมาณ 75,000 บาทครับ
ตั๋วเครื่องบินไป กลับ ประมาณ 22,000 บาท
ค่าโรงแรม ประมาณ 25,000 บาท
ค่าอาหาร ประมาณ 8,000 บาท
ค่าสวิสพาส ประมาณ 13,000 บาท
ค่าเข้าสถานที่ ประมาณ 7,000 บาท
ไม่รวมค่าวีซ่า,ช้อปปิ้ง และค่าของฝากนะครับ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้กันเงินไว้อีกสัก 1 2 หมื่นบาทน่าจะกำลังดีครับ
อุปกรณ์ที่ใช้ในคลิปนี้
1.Fujifilm XH1
2.XF1655 F2.8
3.DJI Osmo Pocket
4.Moza Air
5.Rode SmartLav+
6.Adobe Premiere Pro CC 2019
คลิปถูกใจกดติดตามกันได้ที่ Link นะครับ^^ : https://www.youtube.com/c/vanutccn?sub_confirmation=1
Facebook : https://www.facebook.com/VanutChannel/
Instagram : https://www.instagram.com/vanut_ch/

เที่ยวสวิส คนเดียวแบบง่ายๆ 6 วัน 5 คืน ( Switzerland )

นอกจากการดูหัวข้อนี้แล้ว คุณยังสามารถเข้าถึงบทวิจารณ์ดีๆ อื่นๆ อีกมากมายได้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่INVESTMENT

Articles compiled by CASTU. See more articles in category: INVESTMENT

Leave a Comment