You are viewing this post: บุกเมืองคนยักษ์ในเกาะ หาดูยาก!! เกาะอีสเตอร์ ชิลี 🇨🇱 | YAMUYAMI | รูปปั้นโมอาย
Table of Contents
บุกเมืองคนยักษ์ในเกาะ หาดูยาก!! เกาะอีสเตอร์ ชิลี 🇨🇱 | YAMUYAMI
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่
YAMUYAMI EasterIsland เกาะอีสเตอร์
วันนี้แยมจะพาเพื่อนๆไปเที่ยวเกาะอีสเตอร์!! เราถ่ายทำกันเมื่อสองปีที่แล้วนะคะ
ไปติดตามทริปนี้กันเลยค่ะ
Follow Me here
MY FB PAGE : https://www.facebook.com/yamuyamiofficial
MY INSTAGRAM : https://www.instagram.com/yamuyami
COOKING RECIPES : https://www.instagram.com/yamihealthykitchen
WILLY INSTAGRAM : https://www.instagram.com/willy_chu_
ติดต่อลงโฆษณา Sponser
www.yamuyami.info
Email: [email protected]
Line : yamuyami ( Work Only)
บุกเมืองคนยักษ์ในเกาะ เกาะอีสเตอร์ชิลี YAMUYAMI
7 สถานที่ที่เป็นไปไม่ได้ทางวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่จริง..เหลือเชื่อมาก
7 สถานที่ที่เป็นไปไม่ได้ทางวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่จริง..เหลือเชื่อมาก
เพจ https://www.facebook.com/MRBTHVIDEO/
ติดต่อธุรกิจ
Email [email protected]
สถานที่แปลกเหลือเชื่อลึกลับ
ผจญภัยเกาะอีสเตอร์ Easter Island หรือ เกาะราปานูอี Rapa Nui ตามหารูปปั้นโมอาย Moai ประเทศชิลี Chile
0:00 ถึงสนามบินอีสเตอร์ไอแลนด์
22:13 Mirador Rano Kau ยอดปล่องภูเขาไฟ Ranu Kao และหมู่บ้านโบราณ Orongo สร้างจากกองหิน
45:30 เดินเล่นในตัวเมือง
59:20 Ahu Vinapu จุดแรกที่เห็นซากโมอาย
1:33:43 Centro de Interpretacion บ้านโบราณสร้างจากพืชและจุดทำพิธีกรรมกับรูปปั้นโมอาย
1:40:14 Ahu Akahanga โมอายยักเรียงกันเป็นแถวแต่สภาพแย่เพราะล้มพังไปหมด
2:00:00 Rano Raraku โมอายจำนวนมากที่ข้างปล่องภูเขาไฟ จุดนี้สวยมากต้องดู
2:21:05 Rano Raraku เดินเข้าไปกลางปากปล่องภูเขาไฟ
2:26:15 Ahu Tongariki โมอายยักที่สมบูรณ์แบบเรียงแถวกัน วิวจะสวยมากตอนพระอาทิตย์ขึ้น เป็นจุดชมวิวยอดฮิตของเกาะนี้
2:53:24 Ovahe ชายหาดที่ต้องเดินเลาะไปตามหน้าผา
3:01:19 Ana Te Pahu ถ้ำใต้ดินกลางเกาะอีสเตอร์
3:14:06 Puna Pau เส้นทางเดินที่มีโมอายและบ้านโบราณที่สร้างจากการเจาะรูไปในหินก้อนใหญ่ ไปบนยอดเขาเล็กๆ กลมๆ
3:28:36 Ahu Tahai โมอายยักเรียงแถวที่สภาพปานกลางที่ใกล้ตัวเมืองมากที่สุด
3:32:41 Rapa Nui Museum พิพิธภัณฑ์เกาะอีสเตอร์
3:54:02 Ana Kakenga ลอดถ้ำลงใต้พื้นไปโผล่ปากถ้ำกลางหน้าผาวิวสวยมาก
4:03:45 Ana Kai Tanata ถ้ำที่มีอัคระโบราณและรูปวาดสลักที่เพดานถ้ำ และวิวถ้ำใต้น้ำที่สวยงามมาก
4:23:00 ยอดปล่องภูเขาไฟ Ranu Kao จากอีกด้านที่ต้องเดินป่าเข้ามาร่วม 20 กม
ส่วนคลิบนี้เป็นคลิบดำน้ำลึกไปดูรูปปั้นโมอายที่จมอยู่ใต้น้ำ
https://www.youtube.com/watch?v=bE7F1nqrQb8
ปั่นจักรยานเดินป่า เกาะอีสเตอร์ (อังกฤษ: Easter Island); เกาะราปานูอี (ราปานูอี: Rapa Nui) หรือ เกาะปัสกวา (สเปน: Isla de Pascua) ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก อยู่ในการปกครองของประเทศ ชิลี chile ตัวเกาะห่างจากฝั่งประเทศชิลีไปทางทิศตะวันตกกว่า 3,600 กิโลเมตร เกาะที่ใกล้เกาะอีสเตอร์มากที่สุดอยู่ห่างฝั่งจากถึง 2,000 กิโลเมตร จึงได้ชื่อว่าเป็นสถานที่อันโดดเดี่ยวแห่งหนึ่งของโลก ลักษณะของเกาะมีขนาดเล็ก มีพื้นที่เพียง 160 ตารางกิโลเมตร มีความยาว 25 กิโลเมตร
ปี ค.ศ. 1680 เป็นช่วงที่ชาวเผ่าสองเผ่าที่อยู่บนเกาะ ซึ่งมีชนเผ่าหูสั้น (คาดว่าเป็นพวกที่มาจากเกาะแถบโปลีนีเซีย) กับเผ่าหูยาว (คาดว่ามาจากอเมริกาใต้) ซึ่งอยู่อย่างสงบมาช้านานได้ทะเลาะกันและทำสงครามกัน ทำให้ป่าเริ่มหมด สภาพดินเริ่มเสื่อมลง เผ่าหูสั้นซึ่งมีประชากรน้อยกว่ากลับชนะเผ่าหูยาว และช่วงที่ทำการรบอยู่นั้น พวกชาวเผ่าหูสั้นก็ได้ทำลายรูปปั้นหินและโคนรูปเกาะสลักเป็นจำนวนมาก หลังจากนั้นได้มีสงครามและความอดอยากเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
ในปี ค.ศ. 1722 นักเดินชาวดัตช์ซึ่งเป็นชาวยุโรปกลุ่มแรกที่เข้ามาถึงได้เดินทางมาพบเกาะนี้ในวันอาทิตย์อีสเตอร์ และได้ค้นพบว่าบนเกาะมีชนเผ่าอาศัยอยู่สองเผ่า และได้ตั้งชื่อเกาะให้ตรงกับวันที่ได้พบคือวันอีสเตอร์ ในปี ค.ศ. 1770 นักเดินเรือชาวสเปนที่เดินทางมาจากเปรูได้ค้นพบเกาะนี้อีกครั้ง ซึ่งขณะนั้นบนเกาะมีซึ่งมีชาวพื้นเมืองอาศัยอยู่ มีประชากรราว 3,000 คน แต่สี่ปีให้หลังจากนั้น กับต้นเจมส์ คุกที่เดินทางสำรวจแถบแปซิฟิกครั้งที่สอง ก็ได้พบเกาะอีสเตอร์ ซึ่งขณะนั้นประชากรบนเกาะเหลืออยู่เพียง 600700 คน และมีผู้หญิงอยู่เพียง 30 คนเท่านั้น มีการเล่าต่อกันมาว่าอาจเกิดจากการที่ผู้หญิงและเด็กถูกจับกิน จึงทำให้เด็กกับผู้หญิงลดน้อยลง
ในปี ค.ศ. 1862 รัฐบาลเปรูได้กวาดต้อนชาวพื้นเมืองชายประมาณ 1,000 คนไปเป็นทาสบนแผ่นดินใหญ่ แต่ไม่กี่เดือนให้หลัง หลังจากทาส 15 คนที่ได้รับการปล่อยตัวเพื่อกลับมาที่เกาะ ก็ได้นำเชื้อไข้ทรพิษกลับเข้ามาด้วย ทำให้ชาวเกาะซึ่งไม่มีภูมิคุ้มกันได้ติดโรคร้ายไปด้วย ทำให้ประชากรลดลงไปมาก ต้นตอของสิ่งต่าง ๆ จึงได้ตายหายไปพร้อมกับชาวพื้นเมืองที่ลดจำนวนลงไปด้วย แม้จะมีข้อความสัญลักษณ์ แต่ก็ไม่สามารถถอดความได้ และยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้ว่าชาวเกาะอีสเตอร์ได้อพยบมาจากที่ใด
ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ประเทศชิลีก็ได้ผนวกเกาะอีสเตอร์เข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศในปี ค.ศ. 1888 หลังจากนั้นประชากรบนเกาะก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง
ลักษณะที่เด่นชัดของโมไอ คือ ส่วนหัว แต่ก็มีโมไอหลายตัวซึ่งมีส่วนหัวไหล่, แขน และลำตัว ซึ่งเป็นโมไอที่พบหลังจากถูกฝังมานานนับปี ความหมายและวัตถุประสงค์ของการสร้างโมไอนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด
ข้อสันนิษฐานที่แพร่หลายมากที่สุดข้อหนึ่ง คือ รูปปั้นโมไอถูกแกะสลักโดยชาวโปลินีเซียซึ่งอาศัยอยู่บนเกาะนี้เมื่อกว่า 1,000 ปีมาแล้ว ข้อสันนิษฐานนี้เชื่อว่า พวกโปลินีเซียอาจสร้างโมไอขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนถึงบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ หรืออาจจะเป็นผู้ซึ่งมีความสำคัญ ณ สมัยนั้น หรืออาจจะเป็นสัญลักษณ์แสดงสถานะของครอบครัว
เห็นได้ชัดว่าการสร้างโมไอ (ขนาดทั่วไปสูงประมาณ 3.5 เมตร หนัก 20 ตัน) นั้นต้องลงทุนลงแรงและใช้เวลาเป็นอย่างมาก หลังจากสร้างเสร็จแล้วยังต้องเคลื่อนย้ายรูปปั้นไปยังตำแหน่งที่ต้องการ การขนย้ายโมไอซึ่งหนักและใหญ่นั้นทำอย่างไรก็ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด โดยชาวพื้นเมืองของเกาะนั้นมีความเชื่อว่า โมไอนั้นเดินได้เอง
ในตำนานของเกาะนั้นกล่าวถึงหัวหน้าเผ่าซึ่งเสาะหาที่ตั้งบ้านใหม่ และเขาได้เลือกหมู่เกาะอีสเตอร์ หลังจากที่หัวหน้าเผ่าตายไป เกาะก็ได้ถูกแบ่งให้เหล่าลูกชายของเขาเพื่อให้เป็นหัวหน้าเผ่าใหม่ เมื่อหัวหน้าเผ่าคนใดตายไปก็มีการนำโมไอไปตั้งไว้ ณ สุสาน ชาวเกาะทั้งหลายเชื่อว่ารูปปั้นโมไอจะรักษาจิตวิญญาณของหัวหน้าเผ่าเหล่านั้นไว้ เพื่อให้นำสิ่งดี ๆ มาสู่เกาะ เช่น ฝนตก พืชพรรณสมบูรณ์
เกาะอีสเตอร์/ อารยธรรมรูปปั้นโมอาย / เที่ยวทิพย์
เที่ยวทิพย์ พาไปสัมผัสอารยธรรมเก่าเเก่ ไปกันที่เกาะอีสเตอร์ บอกได้เลยว่า เป็นเกาะที่ทันสมัยสวยงามแต่ยังคงไว้ซึ่งอารยธรรมเก่าเเก่ และพาไปไขปริศนา โมอาย รูปปั้นที่มีเรื่องราวความลี้ลับของชนเผ่าโปลินีเซียซ่อนอยู่
ติดตาม Facebook @สุดเกล้า ได้ที่
https://www.facebook.com/SUDKLAO
เที่ยวทิพย์ เที่ยวเกาะอีสเตอร์ โมอาย ชิลิ amsterdam dam square
สารคดี\”ไขความลับทุ่งหินแห่งอังกฤษ\”StoneHenge|EP.52
สโตนเฮนจ์และบริเวณโดยรอบได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นในปี ค.ศ. 1986 และยังถูกจัดให้เป็นหนึ่งใน 7
MINISTRY OF VIEWS® | StayHomeWatchDocumentary
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _
ถ้าเพื่่อนๆชอบวิดีโอของเราโปรด
กดติดตามsubscribeที่มุมขวาของวิดีโอ
กดสั่นกระดิ่งแจ้งเตือน
ติชมเราด้านล่างคลิป
Channel content:
Educational with helpful,fun and informational video to help people learn, connect and entertain
during this time to slow the rate of infection by staying home as much as possible.
STAYHOME WATCH DOCUMENTARY by MINISTRY OF VIEWS is licensed under Attribution 4.0 International. To view a copy of this license, visit http://creativecommons.org/licenses/by/4.0/
นอกจากการดูหัวข้อนี้แล้ว คุณยังสามารถเข้าถึงบทวิจารณ์ดีๆ อื่นๆ อีกมากมายได้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่INVESTMENT
Articles compiled by CASTU. See more articles in category: INVESTMENT
