สหรัฐฯ ขอคุยจีน พิษสงครามการค้าเอกชนพ่ายแพ้ | รู้เขา รู้เรา รู้เรื่องจีน | 23 ส.ค. 64 | รายการ รู้ เขา รู้ เรา

You are viewing this post: สหรัฐฯ ขอคุยจีน พิษสงครามการค้าเอกชนพ่ายแพ้ | รู้เขา รู้เรา รู้เรื่องจีน | 23 ส.ค. 64 | รายการ รู้ เขา รู้ เรา

สหรัฐฯ ขอคุยจีน พิษสงครามการค้าเอกชนพ่ายแพ้ | รู้เขา รู้เรา รู้เรื่องจีน | 23 ส.ค. 64


นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

สหรัฐฯ ขอคุยจีน พิษสงครามการค้าเอกชนพ่ายแพ้
รัฐบาลวอชิงตัน ได้รับแรงกดดันหนักจากภาคเอกชน ที่เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไข สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกา กับจีนเป็นการด่วน หลังจากสหรัฐฯ ใช้มาตรการทางภาษี เล่นงานการค้ากับจีน และดูเหมือนว่า มีแนวโน้มที่จะเจรจากันในเร็ววันนี้
ประกอบกับนายฉิ่นกัง (Qin Gang) เอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐฯ คนใหม่ ที่เข้ารับตำแหน่งไปเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้ร่วมประชุมทางออนไลน์กับ นายเครก อันเลน (Craig Allen) ประธานสภาธุรกิจสหรัฐจีน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และนายฉิ่นได้แสดงความเห็นว่า จีนจะเปิดสู่โลกมากขึ้น ส่งสัญญาณว่า การแก้ไขปัญหาการค้ามีโอกาสเริ่มขึ้นได้ ขณะเดียวกันนายอันเลน ก็ยืนยันแนวทางความสัมพันธ์ว่า จะต้องอยู่ในรูปแบบของการได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่ายหรือ winwin ตามหลักการที่จีนยึดมั่นกับคู่ค้าทุกประเทศ
นายเหอ เหว่ยเหวิน (He Weiwen) อดีตเจ้าหน้าที่การค้าระดับสูงของจีนประจำองค์กรการค้าโลก หรือ WTO มีความเห็นว่า แม้ท่าทีของทั้งสหรัฐและจีนกำลังตึงเครียดใส่กันอย่างหนัก แต่เรื่องการค้า ทั้งสองฝ่ายต้องหันหน้ามาหารือกัน เพราะมันคือประโยชน์ที่ทั้งสองฝ่ายจะได้ โดยก่อนหน้านี้ ภาคธุรกิจอเมริกันได้เรียกร้องให้รัฐบาล เร่งเจรจากับจีน โดยเฉพาะเรื่องการขึ้นภาษีสินค้าจีน
สภาหอการค้าสหรัฐจีน มีสมาชิกมากถึง 200 บริษัท ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2515 ทุกบริษัททำธุรกิจการค้ากับจีนโดยตรง เป็นกลุ่มบริษัทข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดของโลก สมาชิกสำคัญเช่น แอปเปิ้ล อิงค์ ฟอร์ด มอร์เตอร์ ไอบีเอ็ม แอนด์ ฮันนี่เวลล์ เรียกได้ว่า เสียงจากคนกลุ่มนี้ ทรงอิทธิพลอย่างมาก และสภาธุรกิจแห่งนี้ก็เป็นกลุ่มธุรกิจที่ทรงอิทธิพลมากในสหรัฐอเมริกา และมีความสำคัญต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯและจีน
เวลานี้นักการทูตและเจ้าหน้าที่จีน ก็พยายามหาทางให้สองชาติ กลับเข้ามาสู่เส้นทาง การค้าที่ถูกต้องดังเดิม นักวิเคราะห์ฝ่ายจีนมองว่า การเจรจาจะเกิดขึ้นได้ ฝ่ายสหรัฐฯต้องเริ่มจากความจริงใจ ส่วนฝ่ายจีนนั้นมีความตั้งใจที่จะสร้างความร่วมมือตั้งแต่แรกแล้ว
นักวิเคราะห์ฝั่งจีนมองว่า สงครามการค้าที่ดำเนินอยู่นี้ สหรัฐฯ ไม่ใช่ผู้ชนะ นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ บอกเองว่า การขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ทำให้คนอเมริกันเดือดร้อน เพราะสินค้ามีราคาแพง แก้ปัญหาว่างงานไม่ได้ และสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน จนทำให้สภาธุรกิจฯ และกลุ่มธุรกิจอื่นๆ อีก 30 กลุ่ม ต้องออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลลงมือทำอะไรก่อนที่จะหนักกว่านี้
แม้จะมีการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ตั้งแต่ปี 2562 แต่สหรัฐฯก็ยังเสียดุลการค้ากับจีนต่อเนื่อง ไม่ลดลงเลย โดยในปี 2563 เสียดุลการค้า 310,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขณะเดียวกัน เว็บไซต์ globaltimes ของจีน รายงานบทวิเคราะห์ ที่อ้างว่ามีรายงานจากสำนักข่าว Bloomberg และ CNBC ของสหรัฐฯ ที่เผยว่า นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ จะเดินทางไปเยือนจีน เพื่อเจรจาเรื่องเศรษฐกิจ และการเทขายพันธบัตรสหรัฐฯของจีน
ทางด้านนายเกา หลิงยุน (Gao Lingyun) ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้า ของสถาบันสังคมศาสตร์ในปักกิ่ง วิเคราะห์ว่า เยลเลน จะคุยกับจีนหลายเรื่อง นอกเหนือจากการการเสียดุลการค้ามหาศาลกับจีน อีกเรื่องที่สำคัญมากคือการ เรียกร้องขอความช่วยเหลือจากจีน ให้ช่วยถือครองพันธบัตรสหรัฐต่อไป อย่าได้ขายทิ้ง เพราะมันส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และเศรษฐกิจของชาติ เรื่องนี้นางเยลเลน เป็นคนส่งหนังสือรายงานต่อสภาคองเกรสสหรัฐฯ ด้วยตัวเอง
หลังจากจีนได้ปฏิบัติการ เทขายพันธบัตรสหรัฐฯ ทิ้งครั้งใหญ่ เมื่อเดือนมีนาคมพฤษภาคม 2564 มีมูลค่าถึง 26,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่อีกเรื่องหนึ่งของสหรัฐฯ เพราะเศรษฐกิจสหรัฐฯ อยู่ได้ด้วยการให้ประเทศคู่ค้าเอาเงินดอลลาร์ไปซื้อพันธบัตรสหรัฐ และจีนรู้ดีว่า จุดอ่อนของสหรัฐฯ คือ เงินดอลลาร์ จีนจึงเริ่มนโยบาย ลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐ ในทุกรูปแบบ

ทั้งหมดนี้ หากสหรัฐฯ และจีน คุยกันได้ ผลประโยชน์ลงตัว ยกเลิกภาษีที่เรียกเก็บจากสินค้าจากจีนได้สำเร็จ จะส่งผลกระทบต่อนโยบายของบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ ในช่วง 2 ปีมานี้ นั่นคือ
แผนการย้ายฐานการผลิตออกจากจีน เพื่อเลี่ยงภาษีส่งออกไปยังตลาดสหรัฐ อาจะถูกระงับ
แผน china plus one การสร้างโรงงานผลิตในประเทศอื่นเช่นอาเซียน พร้อมกับโรงงานในจีนเพื่อกระจายความเสี่ยง อาจต้องกลับมาคิดใหม่
เมื่ออาเซียนไม่เป็นเป้าหมายในการย้ายฐานการผลิตแล้ว โอกาสในการฟื้นเศรษฐกิจของกลุ่มอาเซียน จากการรับอานิสงส์นี้ จะต้องเร่งแก้ไข แผนการสร้างอาเซียนเป็นศูนย์กลางแห่งห่วงโซ่การผลิตอันดับสองรองจากจีน อาจจะไม่เป็นดังที่คาดเอาไว้ ต้องจับตาว่า การเจรจาจะส่งผลออกมาได้รูปแบบใด
สหรัฐ, จีน, เจรจา , สงครามการค้า

อาเซียน4.0 อาเซียน4.0ออนไลน์ อาเซียนพลัส อาเซียน
ASEANplus ASEAN4.0 รู้เขารู้เรา รู้เรื่องจีน
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจอาเซียนได้ใน

รายการ อาเซียน Plus
ทุกวันจันทร์
เวลา 10.3011.00 ทาง TNNช่อง16
และ รายการ อาเซียน 4.0 ONLINE
ทุกวันอาทิตย์
เวลา 17.0017.30
รับชมสด ได้ทาง Youtube: TNN Online
และ FACEBOOK LIVE PAGE : TNN LIVE

ช่องทางติดตามสถานีข่าว TNN ช่อง16
https://www.tnnthailand.com
https://tv.trueid.net/live/tnn16
https://www.youtube.com/c/tnn16
https://www.facebook.com/TNNthailand/
https://www.facebook.com/TNN16LIVE/
https://twitter.com/tnnthailand
https://www.instagram.com/tnn_online/
https://www.tiktok.com/@tnnonline
Line @TNNONLINE หรือคลิก https://lin.ee/4fP2tltIo
ทันโลก ทันเศรษฐกิจ ทันทุกความจริง กับ TNNช่อง16 สถานีข่าวที่ถือหลักการของการนำเสนอข่าวตรงประเด็น รวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ และเป็นกลาง โดยทีมข่าวมืออาชีพ

สหรัฐฯ ขอคุยจีน พิษสงครามการค้าเอกชนพ่ายแพ้ | รู้เขา รู้เรา รู้เรื่องจีน | 23 ส.ค. 64

จีนพลิกแผน ติดอาวุธไฮเทคให้ชนบท สร้างกำลังซื้อภายใน | รู้เขา รู้เรา รู้เรื่องจีน | 4 ต.ค. 2564


จีนพลิกแผน ติดอาวุธไฮเทคให้ชนบท สร้างกำลังซื้อภายใน | รู้เขา รู้เรา รู้เรื่องจีน | 4 ต.ค. 2564
วันพุธที่ 22 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา มีการประชุมสำคัญอย่างหนึ่งที่จีน คือการประชุมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใหม่ระยะ 5 ปี ฉบับที่ 14 มีนายกรัฐมนตรีหลีเคอเฉียง เป็นประธนาการประชุม
การประชุมครั้งนี้สำคัญเพราะ
1 เอาจริงกับการสร้าง \”ความต้องการของตลาดภายในจีน\”
2 ม่งมั่น \”เปลี่ยนจีนไปสู่เศรษฐกิจที่เติบโตยั่งยื่น\”
เว็บไซต์ข่าวไชน่าเดลี่ รายงานว่า
แผนพัฒนาระยะ 5 ปี ฉบับที่ 14 นี้ เริ่มตั้งแต่ปี 25642568
งานที่รัฐบาลต้องทำให้ประชาชน ทั่วประเทศ เติบโตได้จริง ร่ำรวยได้จริงอย่างทั่วถึง ไม่กระจุกเฉพาะกลุ่มทุน หรือเมืองใหญ่เท่านั้น เน้นกระจายไปทุกหัวเมือง ทุกมณฑล เพื่อสร้างกำลังซื้อที่ยั่งยืน
โดยมีแนวคิด 3 อย่างคือ
1 ออกแบบการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใหม่ที่เน้นกระจายไปทั่วประเทศ
2 สนับสนุนการวางแผนด้วยเครือข่ายข้อมูลและนวัตกรรมเทคโนโลยี
3 การวางแผนต้องเอื้อต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน อำนวยความสะดวกในการปรับโครงสร้าง และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน

มีหลักปฏิบัติ 6 ประการ
1 ต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูล
2 เสริมกำลัง เครือข่ายข้อมูลที่เป็นแกนหลักของชาติ และเครือข่ายในเขตเมือง ด้วยแบนด์วิธ การรับและส่งข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
3 ปรับปรุงเครือข่ายไฟเบอร์อ๊อพติค ให้ส่งข้อมูลและเชื่อเครือข่ายได้เร็วขึ้น
4 ใช้เครือข่ายการสื่อสารเคลื่อนที่รุ่นใหม่เชิงพาณิชย์จะมีความก้าวหน้าขึ้น
5 ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลมาสู่อวกาศ ใช้การสื่อสารผ่านดาวเทียม การนำทาง การสำรวจระยะไกล และการใช้งานอื่นๆ
6 พัฒนาการทำงานของ อินเตอร์เน็ตสำหรับสรรพสิ่ง หรือ internet of things ให้เกิดการใช้งานอย่างแพร่หลาย
เป้าหมายที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใหม่นี้ก็เพื่อให้เกิด
1)โครงสร้างพื้นฐานแบบบูรณาการ ที่พัฒนามาทั้งหมดนี้ ก็เพื่อสร้างแพลทฟอร์อินเตอร์เน็ตทางอุตสาหกรรม ส่งเสริมให้เกิดการสร้างนวตกรรมร่วมกัน 2) การสร้างระบบอยู่อาศัยในเมืองอัจฉริยะ โดยใช้โครงสร้างอัจฉริยะ ทั้งการขนส่งสินค้า การเดินทาง พลังงาน และการอยู่อาศัย
3) เพื่อสร้างระบบเกษตรอัจฉริยะในชนบท นำเทคโนโลยีเข้าไปใช้ในกระบวนการผลิต และจำหน่ายสินค้าเกษตร
4) สร้างเมืองชนบท ให้เข้าถึงระบบบริการสังคมด้วยระบบการศึกษษ ออนไลน์ และการแพทย์ทางไกล
นายกรัฐมนตรีหลีเคอเฉียง บอกด้วยว่า การทำงานจากนี้ จะรวมและประสานกันเชิงลึก ระหว่าง
มหาวิทยาลัย
สถาบันวิจัย
บริษัทประกอบการด้านไฮเทค
ทุกฝ่ายต้อง อำนวยความสะดวก ช่วยสร้างงานวิจัยระดับสูงแบบสหวิทยาการ
รัฐบาลจะสนับสนุน การวิจัยและพัฒนาเหล่านี้ รัฐบาลจะจัดงบประมาณลงไปอุดหนุน เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการลงทุนในภาคเอกชน กระจายไปทั่วประเทศ ในเมืองและมณฑลต่างๆ
เราจะเห็นข่าวที่มาจากเมืองจีนเวลานี้ มีการนำเอาเทคโนโลยีเข้าไปช่วยเมืองต่างๆในชนบทมากมาย เช่น
ชาวสวนผลไม้ในฝูเจี้ยน กระตุ้นยอดขายผลไม้ด้วยอีคอมเมิร์ซ
ชาวสวนหันมาใช้บนอินเทอร์เน็ตเพื่อขายกีวี โดยมีการปลูกเป็นระบบ และจัดจำหน่ายโดยใช้เทคโนโลยี มีการคำนวณผลผลิตและรายได้
ที่สวนแห่งหนึ่งในหมู่บ้านเหย่าโถว ปลูกกีวีกว่า 1,700 ต้น สร้างผลผลิตได้ 25,000 กิโลกรัม คำนวณแล้วทำรายได้เท่ากับ 100,000 หยวน(ประมาณ 510,000 บาท)
รัฐบาลท้องถิ่นเข้ามาช่วยขาย ด้วยการได้ก่อตั้งบริษัทควบคุมดูแลห่วงโซ่อุปทานหรือซัพพลายเชนขึ้นมา เพื่อกำหนดมาตรฐานคุณภาพของกีวี สร้างช่องทางการบรรจุและการจัดส่ง พร้อมทั้งสร้างแพลตฟอร์มการตรวจสอบย้อนกลับด้านความปลอดภัยของผลไม้ ในขณะเดียวกันก็ยังขายผลไม้ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ไปพร้อมกันด้วย นี่คือตัวอย่างในการพัฒนาใหม่ของจีน ที่กำลังเกิดขึ้นและจากนี้ไปจะเกิดขึ้นทั่วประเทศจีนอย่างแน่นอน

TNN อาเซียน4.0 อาเซียน4.0ออนไลน์ อาเซียน พลัส อาเซียน
ASEAN plus รู้เขา รู้เรา รู้เรื่องจีน ครูพี่ป๊อป จีน
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจอาเซียนได้ใน

รายการ อาเซียน Plus
ทุกวันจันทร์
เวลา 10.3011.00 ทาง TNNช่อง16
และ รายการ อาเซียน 4.0 ONLINE
ทุกวันอาทิตย์
เวลา 17.0017.30
รับชมสด ได้ทาง Youtube: TNN Online
และ FACEBOOK LIVE PAGE : TNN LIVE

ช่องทางติดตามสถานีข่าว TNN ช่อง16
https://www.tnnthailand.com
https://tv.trueid.net/live/tnn16
https://www.youtube.com/c/tnn16
https://www.facebook.com/TNNthailand/
https://www.facebook.com/TNN16LIVE/
https://twitter.com/tnnthailand
https://www.instagram.com/tnn_online/
https://www.tiktok.com/@tnnonline
Line @TNNONLINE หรือคลิก https://lin.ee/4fP2tltIo
ทันโลก ทันเศรษฐกิจ ทันทุกความจริง กับ TNNช่อง16 สถานีข่าวที่ถือหลักการของการนำเสนอข่าวตรงประเด็น รวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ และเป็นกลาง โดยทีมข่าวมืออาชีพ

จีนพลิกแผน ติดอาวุธไฮเทคให้ชนบท สร้างกำลังซื้อภายใน  | รู้เขา รู้เรา รู้เรื่องจีน | 4 ต.ค. 2564

รู้เขารู้เรา ภาคต่างประเทศ สุนัย จุลพงศธร 13 06 2016


รายการ รู้เขารู้เรา ภาคต่างประเทศ กับดร. สุนัย จุลพงศธร ประจำวันจันทร์ ที่ 13 มิถุนายน 2559 ทางเว็บ นปช.อียูสวีเดน ตอนที่15
หัวข้อ \”เปลี่ยนระบอบในเนปาลแม้แต่นักวิชาการก็อ่านไม่ทัน\”
mp3: http://www.mediafire.com/download/ksdty69wsyhd3so

รู้เขารู้เรา ภาคต่างประเทศ สุนัย จุลพงศธร 13 06 2016

สีจิ้นผิงเน้น ลดเหลือมล้ำ \”มั่งคั่งร่วมกัน\” | รู้เขา รู้เรา รู้เรื่องจีน | 30 ส.ค. 64


สีจิ้นผิงเน้น ลดเหลือมล้ำ \”มั่งคั่งร่วมกัน\”
ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ได้ร่วมประชุมใหญ่ครั้งสำคัญเรื่อง \”การปรับรายได้ที่มากเกินอย่างสมเหตุสมผล และส่งเสริมให้ธุรกิจร่ำรวยคืนกำไรสู่สังคม\” เมื่อวันอังคาร 17 สิงหาคม 2564 เป็นการประชุมที่มีสาระสำคัญที่สุด อีกเรื่องหนึ่งของจีน
ประธานาธิบดีสีจินผิง เน้นสองเรื่องใหญ่ที่ต้องพูดถึงความรวยในจีนครั้งนี้คือ
1) รัฐบาลจะเน้น \”การสร้างความมั่งคั่งแบบพอประมาณ\” moderate wealth สำหรับทุกคน ไม่กระจุกอยู่แค่คนบางกลุ่มเท่านั้น
2) ออกนโยบาย ที่จะดึงเอาเงินที่เกิดจากความร่ำรวยเกินไป มาจ่ายคืนให้กับสังคม
ผู้นำจีนเรียกความมั่งคั่งแบบนี้ว่า \”มั่งคั่งร่วมกัน\” common prosperity แนวคิดนี้ เป็นนโยบายลดความเหลื่อมล้ำในสังคมและเตรียมออกนโยบายหลายอย่าง ที่จะสกัดกั้นความร่ำรวยมหาศาลของเหล่า บริษัทเทคสัญชาติจีนทั้งหลาย
เว็บไซต์ข่าว CNBC รายงานว่า การประชุมครั้งล่าสุดของผู้นำจีนครั้งนี้ เป็นการคิดไตร่ตรองมาอย่างดี และได้ใช้เวลาร่วมประชุมในเรื่องนี้กับกลุ่มนักการเมืองจีนอย่างลับๆ ตลอดเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา โดยมีการเก็บตัวเพื่อกำหนดนโยบายร่วมกันที่ รีสอร์ตแห่งหนึ่งในเมืองเป่ยต้ายเฮอ (Beidaihe) ซึ่งใช้เวลา 3 ชั่วโมงในการขับรถออกไปจากกรุงปักกิ่ง
ที่ประชุม ระบุถึงความมั่งคั่งร่วมกัน ไม่ใช่สำหรับคนเพียงไม่กี่คน และไม่ใช่การกระจายความมั่งคั่ง อย่างเท่าเทียมด้วย แต่จะเป็นการกระจายในรูปแบบใด จะมีแนวทางสู่เป้าหมาย ที่จะเกิดขึ้นเป็นขั้นตอน
นักวิเคราะห์มองว่า แนวคิด \”มั่งคั่งร่วมกัน\”หรือ common prosperity เป็นแนวคิดที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ แต่ยังเป็นแนวคิดที่ยังไม่ชัดเจน นางเย่อซือ (Yue Su) นักเศรษฐศาสตร์ ของหน่วยข่าวกรองด้านเศรษฐกิจกล่าวว่า รัฐควรมีนโยบายที่นำไปปฏิบัติได้จริง และเธอเชื่อว่า หากรัฐใช้มาตรการขึ้นภาษีในกลุ่มที่มีรายได้สูง หรือขึ้นภาษีจากผลตอบแทนจากการลงทุน อาจขัดขวางการลงทุน และนำไปสู่ภาวะเงินทุนไหลออก ซึ่งรัฐบาลจีนจะไม่ยอมนิ่งเฉยกับผลกระทบ ที่จะเกิดขึ้นแน่อน
หรือแม้แต่นโยบาย การแปรรูปรัฐวิสาหกิจในจีน อาจจะต้องชะลอตัว เช่นการศึกษา การดูแลผู้สูงวัย บริการสาธารณสุข รัฐบาลจะเข้ามาเข้มงวดกับธุรกิจเหล่านี้มากขึ้นด้วย เพราะเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของประชาชน
ปัจจุบัน รายได้เฉลี่ยของชาวจีนจำนวน 1400 ล้านคน มีอัตราเพิ่มขึ้น แต่สัดส่วนไม่เท่ากันระหว่าง คนกลุ่มบน กับคนกลุ่มล่าง รายได้ของกลุ่มบนจำนวนร้อยละ10 มีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ41 เมื่อเทียบกับปี 2558 ขณะที่รายได้ของคนรายได้น้อยร้อยละ 50 ของทั้งหมด มีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 15
รายได้ของคนจีนมีความแตกต่างกันมาก เช่น
เมืองชายฝั่งตะวันออกเช่นเซี่ยงไฮ้มีเงินเดือนเฉลี่ย 7,058 หยวน (36,000 บาท)
ขณะที่รายได้เฉลี่ยของทั้งประเทศอยู่ที่ 4,021 หยวน (20,500 บาท)
ส่วนคนในชนบทอยู่ที่ เดือนละ 1,541 หยวน (7,800 บาท)
ส่วนการประกาศชัยชนะกับความยากจนในประเทศ ที่ผ่านมาของพรรคคอมมิวนิสต์
ถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ของการเฉลี่ยความมั่งคั่งในอนาคต นักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์มองว่า เมื่อดูที่วัตถุประสงค์ ของแนวทาง ‘มั่งคั่งร่วมกัน’ อย่างละเอียดถี่ถ้วน จะพบว่าจีนต้องปรับสมดุลทางเศรษฐกิจโดย
ให้ความสำคัญกับแรงงานในชาติ
จัดการกับความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม อย่างเป็นธรรม
จัดสรรสวัสดิการสังคม ภาษี และการศึกษา
คาดกันว่า หนึ่งในนโยบายนี้ รัฐบาลจีนอาจจะลดอัตราส่วนเงินสำรองขั้นต่ำ reserve requirement ratio หรือการเก็บสำรองเงินฝากขั้นต่ำของธนาคารพิชย์ เพื่อกระตุ้นการลงทุนภายในมากขึ้น รวมทั้งการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ
หากนโยบายใหญ่ของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ออกมาในรูปนี้ แสดงว่า ในปีนี้และต่อๆไป รัฐบาลปักกิ่ง อาจไม่ต้องการตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่ยิ่งใหญ่เหมือนเดิม แต่จะหันมาจัดการเรื่องในบ้านให้เรียบร้อบเข้าที่เข้าทาง ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาระยะยาว ก่อนจะก้าวเดินครั้งใหญ่ต่อไป เช่น
การกระจายความมั่งคั่ง
การสร้างตลาดภายในให้แข็งแกร่ง
ควมคุมและจัดการความมั่งคั่งของบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ ให้เป็นไปตามระเบียบ
จัดระเบียบการเก็งกำไรในอสังหาริมทรัพย์
จัดการปัญหาหนี้สินที่เกิดจากการซื้ออสังหาริมทรัพย์
แต่ผู้นำจีนย้ำว่าการแก้ปัญหาทุกอย่าง ต้องเป็นไป
ตามหลักการตลาดเสรี
หลักนิติธรรม
โดยร่วมมือกันแก้ไขปัญหาเป็นหลักร่วมกัน
TNNWEALTH
ASEANPLUS
รู้เขารู้เรารู้เรื่องจีน
สีจิ้นผิง
จีนมั่งคั่งร่วมกัน
จีนลดความเหลื่อมล้ำ
รายได้จีน
ลดเหลือมล้ำ

TNN อาเซียน4.0 อาเซียน4.0ออนไลน์ อาเซียนพลัส อาเซียน
ASEANplus ASEAN4.0 รู้เขา รู้เรา รู้เรื่องจีน ครู พี่ ป๊อป จีน
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจอาเซียนได้ใน

รายการ อาเซียน Plus
ทุกวันจันทร์
เวลา 10.3011.00 ทาง TNNช่อง16
และ รายการ อาเซียน 4.0 ONLINE
ทุกวันอาทิตย์
เวลา 17.0017.30
รับชมสด ได้ทาง Youtube: TNN Online
และ FACEBOOK LIVE PAGE : TNN LIVE

ช่องทางติดตามสถานีข่าว TNN ช่อง16
https://www.tnnthailand.com
https://tv.trueid.net/live/tnn16
https://www.youtube.com/c/tnn16
https://www.facebook.com/TNNthailand/
https://www.facebook.com/TNN16LIVE/
https://twitter.com/tnnthailand
https://www.instagram.com/tnn_online/
https://www.tiktok.com/@tnnonline
Line @TNNONLINE หรือคลิก https://lin.ee/4fP2tltIo
ทันโลก ทันเศรษฐกิจ ทันทุกความจริง กับ TNNช่อง16 สถานีข่าวที่ถือหลักการของการนำเสนอข่าวตรงประเด็น รวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ และเป็นกลาง โดยทีมข่าวมืออาชีพ

สีจิ้นผิงเน้น ลดเหลือมล้ำ \

รู้เขารู้เรา 26 กรกฎาคม 2564 / เวียตนามตอบคำถามวัคซีนไทย , ฟิลิปปินส์ตอกยุทธ์เป็นใบ้ไปไม่เป็น


เวียตนามตอบคำถามวัคซีนไทย , ฟิลิปปินส์ตอกยุทธ์เป็นใบ้ไปไม่เป็น
รู้เขารู้เรา 26 กรกฎาคม 2564
โดย สส.สุนัย จุลพงศธร
เปิดสมาชิก VIP VVIP SUPER VIP // YouTube Sunai TV \\\\
ดูสิทธิพิเศษสำหรับการเป็นสมาชิก
https://www.youtube.com/channel/UCCR9I_jjAODM5IcfEveYl7Q/join

รู้เขารู้เรา 26 กรกฎาคม 2564 / เวียตนามตอบคำถามวัคซีนไทย , ฟิลิปปินส์ตอกยุทธ์เป็นใบ้ไปไม่เป็น

นอกจากการดูหัวข้อนี้แล้ว คุณยังสามารถเข้าถึงบทวิจารณ์ดีๆ อื่นๆ อีกมากมายได้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่INVESTMENT

Articles compiled by CASTU. See more articles in category: INVESTMENT

Leave a Comment